Categories
Uncategorized

ยาป้ายร้อนใน

รู้จักโรคร้อนใน และแผลเปื่อยในปากก่อนใช้ ยาป้ายร้อนใน

เป็นเรื่องสำคัญอย่างมากที่คุณต้องรู้จักโรคในช่องปาก ก่อนใช้ ยาป้ายแผลในปาก หรือ ยาป้ายร้อนใน เพราะไม่ว่ายาชนิดใด หากใช้ไม่ตรงกับโรค ก็จะมีข้อผิดพลาดที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายตามมา ในบทความนี้เราจึงชวนทุกคนมาทำความรู้จักกกับโรคร้อนใน และโรคแผลเปื่อยในปาก ว่ามีอาการและปัจจัยการเกิดโรคอย่างไร จึงส่งผลให้ผู้ป่วยต้องเจ็บปวด รวมไปถึงวิธีดูแลรักษาอย่างถูกวิธี เพื่อให้ทุกท่านได้ใช้ยาอย่างถูกต้องและตรงกับโรค

ใช้ ยาป้ายแผลในปาก ต้องรู้จักอาการและสาเหตุของโรคแผลในปาก

โรคแผลในปาก หรือโรคร้อนใน ที่ทุกบ้านนิยมซื้อ ยาป้ายร้อนใน มาเก็บไว้ประจำบ้าน มีลักษณะเป็นแผลขนาดเล็ก มักจะเกิดขึ้นบริเวณเนื้อเยื่อภายในช่องปาก ด้านในริมฝีปาก เหงือก ด้านในของแก้ม และลิ้น ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บปวด และรับประทานอาหารลำบาก ซึ่งโดยส่วนใหญ่แผลเหล่านี้จะสามารถหายไปได้เอง แต่เรามารู้สาเหตุของโรคเพื่อการหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดทรมานนี้กันดีกว่า

1. เกิดการบาดเจ็บในช่องปาก สาเหตุนี้สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่ตั้งใจ เช่น การเผลอไปกัดปากโดยไม่ตั้งใจ, การแปรงฟันแรงเกินไป, การบาดเจ็บที่เกิดจากการเล่นกีฬา และการทำฟัน เป็นต้น

2. การใช้ผลิตภัณฑ์ในช่องปาก ยาสีฟัน และน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของสารโซเดียม ลอริล ซัลเฟต (Sodium Lauryl Sulfate) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยทำความสะอาด ขจัดคราบไขมัน และทำให้เกิดฟอง อาจทำให้ช่องปากมีแผลเกิดขึ้นได้

3. ขาดวิตามิน โดยเฉพาะ วิตามินบี 12, กรดโฟเลต, ธาตุเหล็ก และสังกะสี เป็นต้น

4. อาหาร พฤติกรรมการรับประทานอาหาร ที่มีกรดมากเกินไป ก็สามารถทำให้เกิดแผลร้อนในได้เช่นกัน เช่น สับปะรด, ส้ม, มะนาว และอาหารที่มีรสเผ็ดจัด เป็นต้น

5. มีอาการติดเชื้อ การติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และเชื้อรา บางชนิดจะแสดงอาการทำให้เนื้อเยื่อในช่องปากเป็นแผลได้

6. โรคและอาการเจ็บป่วย เช่น โรคเบาหวาน, โรคเอดส์, โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง และโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของภูมิคุ้มกัน เป็นต้น

7. ฮอร์โมน โดยเฉพาะสาว ๆ ที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือน ระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง สามารถส่งผลต่อช่องปากได้เช่นกัน โดยสาเหตุนี้สามารถใช้ ยาป้ายแผลในปาก เพื่อบรรเทาอาการได้

8. ปัจจัยเสริม เช่น ความเครียด พฤติกรรมการรับประทานอาหารเร็ว และการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นต้น

วิธีดูแลตัวเองเมื่อเกิดแผลร้อนใน นอกจากการใช้ยาป้ายร้อนใน

เมื่อเกิดแผลร้อนใน หรือแผลในปาก การใช้ ยาป้ายแผลในปาก เป็นหนึ่งวิธีที่จะช่วยบรรเทาการความเจ็บปวด และช่วยให้แผลลดการอักเสบลงได้ ซึ่งนอกเหนือจากการใช้ยาแล้ว เรายังมีวิธีดูแลตัวเอง เพื่อช่วยให้แผลหายเร็วมากขึ้นมาฝาก

1. ใช้น้ำเกลือ คุณสามารถล้างปากได้โดยการใช้น้ำเกลือ หรือเบกกิ้งโซดาผสมน้ำสำหรับการบ้วนปากได้ หรือเลือกใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ก็จะสามารถช่วยลดอาการบวมของแผล และลดความเจ็บปวดได้

2. ใช้การประคบเย็น นอกจาก ยาป้ายร้อนใน ที่ได้กล่าวไปแล้ว การประคบเย็นด้วยน้ำแข็ง หรือเจลเย็นบริเวณที่เป็นแผล สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้

3. เปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ในระหว่างที่เป็นแผลร้อนในควรระมัดระวังเรื่องการรับประทานอาหารให้มากเป็นพิเศษ ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดจัด เค็มจัด และไขมัน ให้รับประทานอาหารที่อ่อนแต่มีสารอาหารครบถ้วน เช่น โจ๊กใส่ไข่ ซุปผัก และข้าวต้ม เป็นต้น รวมไปถึงงดอาหารประเภทขนมที่มีความกรุบกรอบ และเครื่องดื่มที่มีกรดอย่างน้ำอัดลม 

4. เพิ่มอาหารเสริม หากสามารถรับประทานอาหารเสริมได้ ให้เลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยกรดโฟลิค, วิตามินบี 6-12 และสังกะสี โดยควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกร

5. เปลี่ยนผลิตภัณฑ์สำหรับช่องปาก ควรเลือกเปลี่ยนแปรงสีฟันให้มีความอ่อนนุ่มมากขึ้น และเลือกใช้ยาสีฟันที่ไม่มีฟอง หรือเลือกยาสีฟันที่ไม่มีส่วนผสมของโซเดียม ลอริล ซัลเฟต

6. ใช้สมุนไพร เป็นวิธีทางธรรมชาติที่จะช่วยบำบัดให้อาการปวดบรรเทาได้ เช่น การดื่มชาคาโมมายล์ และรากชะเอม เป็นต้น

ยาป้ายแผลในปาก จะใช้ได้ผลดีกับแผลร้อนในที่เกิดจากสาเหตุทั่วไปเท่านั้น แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณสังเกตว่าแผลของคุณเริ่มขนาดวงกว้างมากขึ้น มีอาการบวมแดงเพิ่มขึ้น อีกทั้งการป้ายยาก็ไม่ช่วยให้อาการทุเลาลง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อขอรับคำวินิจฉัยและวิธีการรักษาที่ถูกต้องทันที

ยาป้ายร้อนใน