ยาห้าราก แก้ไข้ ถอนพิษ สุดยอดภูมิปัญญาด้านตำรับยาโบราณ
ในสถานการณ์ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญหน้ากับโรคร้ายแรงอย่างโควิด-19 รวมถึงโรคชนิดอื่น ๆ อีกหลายโรค ไม่มีใครอยากเป็นไข้ แม้แต่ไข้หวัดธรรมดาก็ไม่อยากเป็น จากเดิมที่ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว รักษาไม่กี่วันก็หาย แต่ปัจจุบันนี้ถ้าเป็นหวัด เป็นไข้และมีอาการไอร่วมด้วย ไม่มีใครอยากออกไปไหน ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ เพราะกลัวว่าจะมีเชื้อของโรคร้ายที่เป็นแล้วอาจจะมีผลกระทบต่อภาวะการทำงานของปอด ดังนั้นเมื่อมีอาการไข้ต้องรีบรักษา ถึงแม้จะไม่ใช่อาการของโรคโควิด-19 ก็ตาม เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ปอดแข็งแรงและมีภูมิต้านทานต่อเชื้อโรคต่าง ๆ ซึ่งมีตำรับยาโบราณอย่าง ยาห้าราก หรือในชื่อเรียกอื่น คือ เบญจโลกวิเชียรและ แก้วห้าดวง ที่ถือว่าเป็นสุดยอดภูมิปัญญาและองค์การเภสัชกรรมก็ยอมรับว่าได้มาตรฐานด้านยาทีสามารถใช้รักษาโรคได้อีกด้วย
5 รากของพืชสมุนไพรที่ผสมมาเป็นตัวยาห้ารากเพื่อรักษาโรค
1. รากชิงชี่ ที่ได้ยินชื่อแล้วไม่ค่อยคุ้นสักเท่าไร เพราะเป็นพืชที่ค่อนข้างหายาก แต่สรรพคุณน่าทึ่ง โดยในส่วนของรากสามารถใช้ได้ตั้งแต่รากสด เพื่อลดไข้ ขับลม ขับปัสสาวะ รวมถึงสามารถรักษาโรคกระเพาะอาหารได้ นอกจากรากแล้วส่วนอื่น ๆ ของชิงชี่ก็ยังมีประโยชน์ในการรักษาโรคเช่นกัน
2. รากย่านาง ซึ่งสมุนไพรตัวนี้หลาย ๆ คนน่าจะรู้จักดี เนื่องจากใบย่านางนั้นได้รับความนิยมนำมาเป็นยามากที่สุด โดยเฉพาะสรรพคุณด้านการลดเบาหวานและความดัน หรือนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในส่วนของรากย่านาง มีสรรพคุณเพื่อเป็นยากระทุ้งพิษไข้ แก้ไข้ ถอนพิษไข้ รวมถึงสามารถควบคุมระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ จึงเป็นส่วนผสมสำคัญของยาห้าราก
3. รากคนทา พืชทีพบมาในป่าเขตร้อนแถบทวีปเอเชีย โดยรากจะมีรสขมแต่สรรพคุณเด่นในด้านการแก้ไข้ ไข้พิษ ไข้กาฬ เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดอาการท้องเสีย แก้ร้อนไหนและกระหายน้ำได้ดีอีกด้วย
4. รากมะเดื่อชุมพร ซึ่งเป็นพืชพันธุ์พื้นบ้านของไทย จึงหาได้ง่ายเพราะมีปลูกอยู่เป็นการทั่วไป นิยมใช้กันมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีสรรพคุณเด่น ๆ คือ ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส กระทุ้งพิษไข้ แก้ร้อนใน ระงับความร้อน แก้อาเจียน ท้องเสียได้ดี
5. รากเท้ายายม่อม หรือไม้เท้ายายม่อม โดยรากมีสรรพคุณเด่นมากที่สุด มีรสจืดเฝื่อน สามารถขับพิษไข้ทุกชนิดรวมทั้งบรรเทาอาการไอและช่วยขับเสมหะได้ดี นอกจากพิษไข้แล้วยังแก้พิษสัตว์กัดต่อยและพิษงูได้ดีอีกด้วย
สรรพคุณของยาห้าราก ที่รู้แล้ว…ต้องหาเอาไว้ติดตู้ยาที่บ้าน
1. มีฤทธิ์ลดไข้ เพราะเป็นยาใช้เพื่อกระทุ้งพิษ ขับพิษออกจากร่างกายหรือฆ่าเชื้อไวรัส เนื่องจากอาการมีไข้ตัวร้อน ถ้ามีไข้สูงเกินไปก็อาจจะทำให้เกิดอาการช็อกได้ การรักษาอุณหภูมิร่างกายให้อยู่ในภาวะปกติจึงมีความสำคัญอย่างมาก
2. สามารถลดอาการปวดได้ดี เนื่องจากเมื่อร่างกายมีอาการของไข้ มักจะมีอาการปวดร่วมด้วยแทบทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดหัว ปวดเมื่อยตามเนื้อตัวจนไม่กระทบต่อกิจวัตรประจำวัน ออกไปทำงาน หรือไปเรียนหนังสือไม่ได้ เรียกว่าเป็นภาวะที่ร่างกายอ่อนแอ แต่ยาห้ารากสามารถบรรเทาอาการปวดได้ดี
3. สามารถต้านภูมิแพ้และอาการอักเสบแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งได้มีการทดลองวิจัยออกมาแล้วจากองค์เภสัชกรรมแล้วว่ามีมาตรฐานในการออกฤทธิ์ต้านภูมิแพ้ ลดอาการอักเสบได้จริง
4. มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งถือว่าเป็นตัวการหนึ่งของการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ รวมถึงอาการปวดและอาการอักเสบด้วย ทำให้เวลาทานยาจะไม่เกิดอาการแพ้จำพวกผดผื่นคันขึ้นตามผิวหนัง
ยาห้าราก…ใช้และทานให้ถูกวิธี เป็นโควิดก็สิทธิ์หายได้ โดยถือเป็นการแพทย์ทางเลือก ซึ่งได้นำมาเป็นแนวทางในการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่ต้องรักษาอาการอยู่ที่บ้าน แบบ Home Isolation ในกลุ่มผู้ป่วยที่กำลังเริ่มมีอาการไข้ ยังไม่ใช่กลุ่มที่มีอาการรุนแรง หรือเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ซึ่งต้องเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น โดยสามารถทานได้ตั้งแต่เด็กที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป โดยเป็นกลุ่มมีอาการน้อย หรือเริ่มมีไข้ไม่เกิน37.5 –38 องศาเซลเซียส แต่ข้อควรระวัง คือ ไม่ควรใช้ยาติดต่อกันเกิน 3 วัน ถ้าไม่ดีขึ้นควรรีบพบแพทย์ และไม่ควรใช้ในผู้ป่วยที่สงสัยว่าเป็นไข้เลือดออกและไข้ทับระดู นอกจากนี้ยังมียาสมุนไพรแผนโบราณอีกหลายชนิดที่สามารถนำมาใช้บรรเทาอาการหวัด และ ใช้ในการรักษาทางเลือกได้อีก

One reply on “ยาห้าราก”
[…] พืชสมุนไพรของไทยมักจะมีสรรพคุณอยู่อย่างน่าทึ่ง หลากหลายชนิด ซึ่งอาจจะเคยถูกมองข้ามมาก่อนหน้านี้ ทั้ง ๆ ที่ในสมัยโบราณก็ใช้เพื่อเป็นยารักษาโรคตลอดมา แต่พอเข้าสู่ยุคของการแพทย์ที่มีความเจริญก้าวหน้าก็หันมาใช้ยาแผนปัจจุบันกันเสียเป็นส่วนใหญ่ นั่นเป็นเพราะว่าการใช้พืชสมุนไพรยังไม่มีผลวิจัยที่มารองรับว่าใช้อย่างไร ปริมาณเท่าไรจึงจะถือว่าได้มาตรฐาน เพราะในบางชนิดถ้าใช้ผิดวิธี หรือใช้ในปริมาณที่มากเกินไปก็สามารถทำให้เกิดอันตรายได้ แต่ในสมุนไพรไทยโบราณอย่างโกศจุฬาลัมพา ได้มีการนำมาวิจัยโดยทีมวิจัยต่างชาติและพบว่ามีสารสำคัญซึ่งสามารถยับยั้งเชื้อไวรัสได้ โดยที่ยังเป็นผลการวิจัยได้ผลจริงในห้องทดลองปฏิบัติการ เชื่อและมีความหวังว่าในอนาคตอันใกล้นี้น่าจะสามารถใช้เพื่อเป็นยารักษาได้ทั่วไป เพราะในไทยมีการผลิตเพื่อเป็นยาในรูปแบบ โกฐจุฬาลัมพาแคปซูล สามารถใช้แก้ไข้ แก้ไอ แก้ไข้จับสั่น หรือช่วยขับเหงื่อได้ โดยเป็นยาในบัญชีหลักของสาธารณสุขไทยอยู่แล้ว […]