โซดามิ้นท์ ตัวช่วยยามฉุกเฉิน เมื่อมีอาการท้องอืด หรือกรดเกิน
ในยามที่สังคมและสภาวการณ์โลกยุคปัจจุบันนี้ วิถีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์เริ่มค่อย ๆ หายไปจากวิถีชีวิตไปเรื่อย ๆ ความเร่งรีบที่เกิดจากการทำงาน การเรียน การทำกิจกรรมต่าง ๆ ล้วนแล้วต้องแข่งกับเวลาทั้งสิ้น ผู้คนใช้ชีวิตอย่างเร่งด่วนจนกลายเป็นความเคยชิน แทบทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวันทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกว่ามันก็คงเป็นเรื่องปกติ แต่ความปกติใหม่นี้มันทำให้ร่างกายไม่ปกตินี่สิปัญหา…โดยเฉพาะระบบย่อยอาหารของร่างกาย..ความเร่งรีบที่ทำให้พฤติกรรมการทานอาหารเปลี่ยนจากเดิม ผู้คนทานอาหารเร็วขึ้น เพราะคิดแค่ว่าก็แค่รีบ ๆ ทานให้อิ่ม ๆ จะได้ไปทำอย่างอื่นต่อไวไว พฤติกรรมแบบนี้แหละที่ทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง และอาจเรื้อรังไปเลยก็ได้ การทานอาหารที่เร่งด่วนทำให้การบดเคี้ยวอาหารน้อยลง อาหารที่ทานลงไปก็จะย่อยได้ยากขึ้น ผลก็คืออาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือมีกรดในกระเพาะมากเกิน เมื่อเกิดอาการเหล่านี้ขึ้น การทำกิจกรรมอื่น ๆ ก็เกิดอุปสรรคขึ้นแน่นอน แนวทางช่วยเหลือเร่งด่วนฉุกเฉินจึงตกไปอยู่ที่ โซดามิ้นท์ ที่สามารถบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้ทันทีในเวลาไม่เกิน 15 นาทีเท่านั้นเอง
รู้จักกันไหมว่า…โซดามิ้นท์คืออะไร? มีสรรพคุณอย่างไร?
โซดามิ้นท์ หลายคนอาจไม่คุ้นชื่อ จริง ๆ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์อย่างเป็นทางการว่า โซเดียมไบคาร์บอเนต ก็เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็ยังคงไม่คุ้นชื่ออีกเช่นกัน แต่ถ้าบอกว่า เบกกิ้งโซดา หลายคนก็คงจะอ๋อออ..ยาว ๆ ไปเลย ประโยชน์ของโซดามิ้นท์นั้นมากมายหลายหลากจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การใช้เพื่อการลดกรดในกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อหรืออาการอาหารไม่ย่อย อาการต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนแต่เกิดมาจากพฤติกรรมการทานอาหารที่เร่งรีบเกินไปทั้งสิ้น การออกฤทธิ์จะเป็นด่าง เพื่อใช้ลดความเป็นกรดภายในกระเพาะให้กลายเป็นกลาง สามารถบรรเทาอาการของกรดในกระเพาะอาหารได้ นี่จึงเป็นเหตุผลหลักเลยที่ทำให้อาหารท้องอืดท้องเฟ้อหายได้ โดยผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ผลิตออกมานั้นจะมีเพียง 2 ประเภทเท่านั้นคือแบบเม็ด และแบบผง แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบใดก็มีผลในการออกฤทธิ์เหมือนกัน ในบางกรณีอาจมีการใช้เพื่อบรรเทาอาการของผู้ป่วยบางโรคได้ เช่น โรคไต หรือโรคที่เกี่ยวกับกรดตกค้างจากกระบวนการเผาผลาญที่ไม่สมบูรณ์ แต่โดยรวมแล้วมันคือการเปลี่ยนฤทธิ์ของกรดให้เป็นกลางนั่นเอง
มีข้อควรระวังอย่างไรบ้าง สำหรับผู้ที่มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และเลือกทานโซดามิ้นท์
แม้ว่าโซดามิ้นท์หรือโซเดียมไบคาร์บอเนตจะมีสรรพคุณในการช่วยลดกรดในร่างกายได้ แต่ก็มีข้อที่ควรระวังอยู่บ้างเช่นกัน ประเด็นแรกเลยก็คือมีประวัติการแพ้สารประเภทนี้หรือไม่ หากมีประวัติเคยแพ้ก็ควรเลี่ยง หากไม่เคยทราบมาก่อนว่าแพ้สารพวกนี้หรือไม่ ให้สังเกตอาการที่แสดงให้พบเห็นได้หลังการทานผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ก็คืออาการอาเจียน หรืออาการแพ้ที่แสดงอาการแตกต่างกันไปในแต่ละคน เช่น ผื่น คัน หายใจไม่ออก เป็นต้น ประเด็นที่สองก็คือ ฤทธิ์อาจไปเสริมหรือต่อต้านยาชนิดอื่น ๆ ที่คุณกำลังทานร่วมอยู่ด้วย คุณสมบัติสำคัญของโซดามิ้นท์คือปรับกรดเป็นกลาง ดังนั้นหากยาอื่นที่ทานอยู่มีฤทธิ์เป็นด่างอยู่แล้ว การทานด่างเพิ่มเข้าไปอาจทำให้ร่างกายขาดสมดุลได้ หรือมียาบางชนิดที่ไม่ชอบความเป็นด่าง หากสภาพภายในร่างกายเป็นด่างมากเกินไป ฤทธิ์ของยาประเภทนั้นจะลดลง เช่น ยารักษาโรคเบาหวาน ยาต้านเชื้อเอชไอวี ยาบำรุงเลือด เป็นต้น ผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิต โรคเบาหวาน ผู้หญิงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาชนิดนี้
การทานโซดามิ้นท์ควรทานตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพราะแม้จะมีสรรพคุณสูง แต่หากรับประทานไม่ถูกวิธีก็ให้โทษได้มากมายเช่นกัน การทานตามคำแนะนำก็มีตั้งแต่ การทานให้ตรงตามเป้าหมายในการรักษา ว่าต้องการเพียงเพื่อการลดกรด แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ หรือต้องการรักษาอาการป่วยบางอย่าง กรณีหลังนี้ต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์เป็นหลัก ปริมาณที่ใช้ซึ่งจะกำหนดตามวัยของผู้ที่จะรับประทาน ความถี่ในการรับประทาน ซึ่งทุกคำแนะนำจะมีกำกับในสลากการค้าอยู่แล้ว หากไม่ใช่การทานตามแพทย์สั่งก็ควรทานให้ถูกตามคำแนะนำในสลากสินค้านั่นแหละ เมื่อรู้ทั้งสรรพคุณและข้อควรระวังแล้วก็หายห่วง ลองหามาติดตู้ยาเอาไว้เลยเผื่อวันใดฉุกเฉินจะได้หยิบใช้ได้ทันท่วงที
