Month: February 2023

3 เมนูปลา สำหรับพ่อบ้านแม่บ้านมือใหม่ ทำง่าย อร่อยได้แบบมือโปร!

สำหรับพ่อบ้านแม่บ้านมือใหม่แล้วการทำอาหารคงไม่ใช่เรื่องง่ายสักเท่าไหร่ แต่ เมนูปลา ที่เราจะพาไปทำในวันนี้ก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพราะเป็นเมนูง่าย ๆ ที่ใครก็สามารถทำได้ มีวัตถุดิบเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้นเอง ช่วยให้คุณทำอาหารทานเองที่บ้านได้โดยไม่ต้องออกจากบ้าน เป็นเมนูที่สามารถทานได้ทั้งครอบครัว หากพร้อมแล้วเราไปดูกันเลยว่าจะมีเมนูอะไรบ้าง?

ปลาดอลลี่ทอดน้ำปลา เมนูปลา ง่าย ๆ ในไม่กี่นาที 

วัตถุดิบ

– ปลาดอลลี่หั่น 1 กิโลกรัม เมนูปลาสูตรนี้สำหรับ 2 ท่าน

– น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ

– น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

– แป้งทอดกรอบ

– กระเทียมเจียว

วิธีทำ

– เทแป้งทอดกรอบลงในภาชนะ นำปลาดอลลี่หั่นที่ล้างทำความสะอาดแล้วลงไปชุบแป้งทอดกรอบให้ทั่ว (สำหรับใครที่เลือกใช้ปลาดอลลี่แช่แข็ง แนะนำว่าให้รอให้ละลายก่อนจึงนำไปชุบแป้ง เพราะหากปลายังแข็งอยู่ น้ำแข็งจะละลายออกมาใส่แป้ง ทำให้ทอดแล้วไม่กรอบและสุกช้า)

– ตั้งน้ำมันให้ร้อนด้วยไฟกลาง ระดับน้ำมันให้ท่วมเนื้อปลา

– นำปลาชุบแป้งลงไปทอดให้กรอบ จากนั้นตักขึ้นมาพักไว้

– นำน้ำมันที่เหลือมาทำซอสราดโดยใช้น้ำมันประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ

– เทน้ำตาลทรายและน้ำปลาลงไป คนให้เข้ากัน ใช้ไฟเบา รอให้เดือดแล้วปิดไฟ

– นำปลาดอลลี่ทอดเรียงใส่จานแล้วราดด้วยซอสน้ำปลา

– ตกแต่งด้วยกระเทียมเจียวหอม ๆ เป็นอันเสร็จ เป็นเมนู ปลาทอด ที่ทำง่าย ใช้เวลาน้อยและอร่อยด้วย

ปลาแซลมอนย่างซีอิ๊ว เมนูปลาสำหรับสายคลีน

วัตถุดิบ 

– เนื้อปลาแซลมอน 1 ชิ้น หรือประมาณ 200 กรัม เมนูปลาสำหรับ 1 ท่าน

– ซีอิ๊ว คีโต 2 ช้อนโต๊ะ

– เห็ดออรินจิ หั่น ปริมาณตามชอบ

วิธีทำ

– เปิดไฟเตาย่างให้ร้อนในระดับไฟกลาง ฉีดสเปรย์น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันคีโตลงบนเตาเล็กน้อย

– นำปลาแซลมอนที่ล้างทำความสะอาดแล้วลงไปย่าง โดยให้นำด้านที่มีหนังลงก่อน เพื่อป้องกันหนังติดกระทะย่าง 

– นำเห็ดออรินจิลงไปย่าง

– นำแปรงชุบลงในซีอิ๊วคีโตและนำไปทาที่ปลาแซลมอนเพื่อช่วยเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอม

– จากนั้นย่างให้สุกทั่วครบทุกด้าน และตักใส่ภาชนะ

– ตักใส่จาน ราดซีอิ๊ว เพื่อช่วยเพิ่มรสชาติ จะได้กลิ่นหอม ๆ ของปลาและซีอิ๊ว ทานคู่กับเห็ดออรินจิหรือข้าวสวยร้อน ๆ 

ปลากะพงนึ่งมะนาว เมนูปลา สำหรับสายเฮลตี้

วัตถุดิบ 

– ปลากะพง 1 ตัว เมนูปลานึ่ง สำหรับ 2 ท่าน

– พริกขี้หนูสับ 8 – 10 เม็ด

– กระเทียมสับ 1 หัว

– ตะไคร้ทุบ 5 ต้น

– น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

– น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

– น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ

– ขึ้นฉ่ายหั่น 1 ต้น

วิธีทำ

– ตั้งหม้อนึ่งให้น้ำเดือด จากนั้นใช้ไฟกลาง

– นำตะไคร้วางลงบนซึ้ง จากนั้นนำปลากระพงที่ล้างทำความสะอาดแล้ววางใส่ภาชนะแล้วนำลงในหม้อนึ่ง

– นึ่งประมาณ 15 – 20 นาทีจนปลาสุก เทน้ำที่ออกมาจากตัวปลาออก

– ทำน้ำยำ โดยการนำน้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมะนาว พริกสับ และกระเทียมมาผสมจนเข้ากัน หากใครอยากเพิ่มรสชาติสามารถเพิ่มได้ในขั้นตอนนี้ ปรุงรสชาติได้ตามที่ต้องการ

– นำน้ำยำราดลงไปบนปลา โรยหน้าด้วยใบขึ้นฉ่าย แล้วนึ่งต่อประมาณ 3 นาที

– ยกภาชนะออกจากซึ้งนึ่งพร้อมเสิร์ฟ เป็นเมนู ปลานึ่ง ที่ให้รสชาติเปรี้ยว เค็ม หวาน หอมกลิ่นตะไคร้และขึ้นฉ่าย

และนี่คือเมนูปลาทั้ง 3 เมนูที่เราได้นำมาฝากกัน เป็นเมนูทำง่าย ๆ ใช้เวลาไม่นาน พ่อบ้านแม่บ้านมือใหม่ก็สามารถทำได้ โดยในขั้นตอนของการย่างปลานั้นแนะนำว่าไม่ควรกลับปลาบ่อย เพราะการกลับปลาบ่อย ๆ จะทำให้เนื้อปลาเละง่าย ส่วนในการนึ่งปลาก็ไม่ควรกลับปลาเช่นกัน และหากใครที่กลัวว่าจะคาว แนะนำว่าให้ล้างทำความสะอาดปลาด้วยน้ำสะอาดทิ้งก่อน 1 – 2 น้ำ จากนั้นให้ใช้เกลือป่นถูทำความสะอาดให้ทั่วตัวปลา แล้วล้างออกด้วยน้ำผสมน้ำส้มสายชูอีกครั้ง และล้างด้วยน้ำสะอาดอีก 2 – 3 ครั้ง เพียงเท่านี้ก็ช่วยดับกลิ่นคาวปลาได้แล้ว สำหรับใครที่ชอบทานปลาและกำลังเริ่มฝึกทำอาหารก็ยังมีเมนูปลาให้ได้ลองทำกันอีกหลายเมนูเลย

ช่วยในการนอนหลับได้จริงไหม ควรเลือกดื่มแบบไหนดี?

ชาคาโมมายล์ (Chamomile Tea) เป็นชาสมุนไพรที่มีการใช้กันมากว่า 1,000 ปีแล้ว ได้เริ่มใช้ตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณโดยการนำดอกมาใช้เป็นยารักษาโรค ปัจจุบันนี้คาโมมายล์ถูกนำมาใช้ทางอุตสาหกรรมมากขึ้น ทั้งอุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง รวมไปถึงอุตสาหกรรมน้ำหอม เพราะเป็นชาสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่าง รสชาติหวานอ่อน ๆ และมีกลิ่นหอมด้วย

ประเภทของ ชาคาโมมายล์ และความแตกต่างในการใช้งาน

· ดอกไม้แห้ง ชาคาโมมายล์ ในรูปแบบดอกไม้แห้งบรรจุใส่ถุง ส่วนมากแล้วจะเป็นดอกคาโมมายล์แห้ง 100% ที่ได้จากธรรมชาติ โดยไม่มีสารเติมแต่งใด ๆ เป็นชาเข้มข้นที่ใช้สำหรับชงใส่น้ำร้อน ส่วนการชง จะใช้ดอกชาคาร์โมมายแห้ง 1 ช้อนชา ชงในน้ำร้อนที่ต้มสุกแล้วประมาณ 1 แก้ว จากนั้นรอประมาณ 3 – 5 นาทีเพื่อให้ดอกชาระเหยออกมาในน้ำ แล้วกรองเอาดอกชาแห้งออกเพื่อดื่ม ข้อควรระวังคือ ไม่ควรใส่ชามากจนเกินไป เพราะจะทำให้รสชาติเข้มข้น ทานยาก

· แบบถุงชา บรรจุมาในถุงชาแบบพร้อมชงดื่ม สามารถนำถุงชาลงไปชงในน้ำร้อนได้เลย ข้อดีคือชงง่าย ไม่ต้องกะปริมาณเอง ได้ปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการ เมื่อชงเสร็จแล้วยกถุงชาขึ้นเพื่อทิ้งได้เลย ไม่ต้องกรองเอาตะกอนออก

ประโยชน์ของ ชาคาโมมาย ที่ดีต่อร่างกาย

· ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น ใน ชาคาโมมาย มีสารกลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เข้าไปช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของเลือด ช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น ทำให้เกิดความผ่อนคลาย และช่วยกระตุ้นการนอนหลับได้

· ช่วยคลายเครียด มีสาร GABA ที่เป็นสารสื่อประสาทในการปรับอารมณ์และบรรเทาอาการวิตกกังวลหรือความเครียดต่าง ๆ เพื่อช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายยิ่งขึ้น

· ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ในชาคาโมมายมีฤทธิ์ในการต้านแบคทีเรียและช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวเพื่อช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

· ช่วยต้านเซลล์มะเร็ง มีสารพิจีนีน (Apigenin) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระประเภทฟลาโวนอยด์ที่มีฤทธิ์ในการช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งและช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้

· ช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือน มีฤทธิ์ในการบรรเทาการปวด จึงช่วยบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนได้

· ช่วยลดการอักเสบ มีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบในช่องปาก ลำคอ ระบบทางเดินอาหาร และผิวหนังได้

· ช่วยสมานแผล ช่วยให้แผลสมานกันได้ดีขึ้น

· ช่วยบำรุงระบบย่อยอาหาร มีฤทธิ์ในการช่วยยับยั้งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารและช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเสีย หรือการปวดเกร็งในช่องท้องได้

การดื่ม ชาคาโมมายล์ และข้อควรระวัง

· ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรดื่มชาคาโมมายล์มากจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดอาการอาเจียนได้

· หลังดื่มอาจทำให้มีอาการง่วงได้ เพราะมีฤทธิ์ในการช่วยให้นอนหลับ จึงช่วยหลีกเลี่ยงการดื่มก่อนขับรถอย่างน้อย 30 นาที

· การดื่มก่อนนอนจะช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น ความจริงแล้วสามารถดื่มได้ทุกเวลาตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นก่อนอาหารหรือหลังอาหารก็ได้ โดยการดื่มหลังอาหารจะช่วยกระตุ้นระบบการย่อยอาหารได้ ส่วนการดื่มนอนก่อน 30 นาทีก็จะช่วยให้นอนหลับดีขึ้นได้

· ควรเลือกชนิดที่มีเครื่องหมาย อย. เป็นเครื่องหมายที่บอกถึงความปลอดภัย คุณภาพ และประสิทธิภาพของตัวสินค้าจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ที่จะช่วยให้ดื่มได้อย่างมั่นใจ

· เด็ก สตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทาน

· ผู้ที่แพ้พืชในตระกูลเดซี่ (Asteraceae) ควรระวังการแพ้ เพราะคาโมมายล์เป็นพืชในตระกูลเดียวกับดอกเดซี่ หากว่าเคยมีประวัติการแพ้ดอกเดซี่ก็ควรระวังการแพ้คาโมมายล์ด้วยเช่นกัน

ชาคาโมมาย เป็นพืชสมุนไพรที่นิยมทานเป็นยา มีสรรพคุณหลายอย่าง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องระบบการย่อยอาหาร อาการปวดและอาการอักเสบต่าง ๆ รวมถึงผู้ที่มีปัญหาเรื่องการนอนหลับด้วย หากใครที่เป็นคนนอนหลับยากก็สามารถหาซื้อชาคาโมมายล์ไปลองชงดื่มก่อนกันได้ โดยจะช่วยบรรเทาความเครียดและอาการวิตกกังวลต่าง ๆ และช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้นได้

พ่อแม่ควรรู้! เลือก อย่างไรให้ดีต่อลูกน้อยและรักษาอย่างได้ผล

อาการไอ เป็นอาการที่พบได้ในเด็ก การเลือกซื้อ ยาแก้ไอของเด็ก จึงเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้ เพราะเป็นยาบรรเทาอาการที่หากเลือกใช้ได้ถูกประเภทก็จะช่วยให้ลูกมีอาการที่ดีขึ้น แต่หากเลือกใช้ไม่ถูกประเภทก็จะส่งผลข้างเคียงต่าง ๆ ต่อสุขภาพของลูกได้ ก่อนใช้ยา คุณพ่อคุณแม่จึงควรศึกษาข้อมูลเบื้องต้นของยาแก้ไอแต่ละชนิดก่อนว่าเหมาะสำหรับอาการไอแบบไหนและหมั่นสังเกตอาการของลูกด้วย วันนี้เราจึงมีเรื่องดี ๆ เกี่ยวกับการเลือกซื้อยาน้ำแก้ไอเด็กและข้อควรระวังในการใช้ยามาบอกกัน

ประเภทของ ยาแก้ไอของเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้

· ยาบรรเทาอาการไอ Antitussive/Cough Suppressant ยาแก้ไอของเด็ก ที่มีตัวยา Antitussive/Cough Suppressant จะเป็นยาที่ใช้สำหรับบรรเทาอาการไอโดยเฉพาะ สามารถใช้ได้กับอาการไอแห้งและอาการไอแบบมีเสมหะ แต่ตัวยานี้จะส่งข้างเคียงต่อการใช้ยา ออกฤทธิ์กดประสาทและทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วยในบางราย

· ยาขับเสมหะ Expectorants เป็นตัวยาที่ใช้สำหรับเด็กที่มีอาการไอแบบมีเสมหะ โดยตัวยาจะช่วยกระตุ้นการสร้างสารหลั่งให้ร่างกายขับเสมหะออกมาได้ง่ายขึ้น เพราะเสมหะเป็นสารคัดหลั่งที่มีความข้นเหนียวอยู่ในลำคอ โดยเกิดจากการติดเชื้อโรคหรือเจอสิ่งระคายเคืองต่าง ๆ หากไม่ขับออกมาจะทำให้เกิดการระคายคอและส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจได้ ซึ่งตัวยา Expectorants ก็มีผลข้างเคียงเช่นกัน ทำให้คลื่นไส้ อาเจียนได้

· ยาละลายเสมหะ Mucolytics เป็นตัวยาที่ช่วยละลายความข้นหนืดของเสมหะเพื่อให้ร่างกายขับออกมาได้ง่ายขึ้น เป็นตัวยาที่มีผลข้างเคียงน้อยและมีความปลอดภัย

การเลือกซื้อ ยาแก้ไอของเด็ก ควรดูที่อะไรบ้าง?

· เลือกตัวยาที่ตรงกับอาการไอ ก่อนเลือกซื้อ ยาแก้ไอเด็ก ควรสังเกตอาการไอก่อนว่าไอแบบไหน โดยลักษณะการไอแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ การไอแห้ง เป็นการไอออกมา แค่ก ๆ โดยไม่มีเสมหะในลำคอ และการไอแบบมีเสมหะ คือไอแบบค่อก ๆ มีเสียงเสมหะอยู่ในลำคอด้วย จึงควรเลือกซื้อยาน้ำที่มีตัวยาในการรักษาอาการไอและมีสรรพคุณในการละลายเสมหะหรือขับเสมหะด้วย

· เลือกยาที่ปราศจากแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์เป็นสารที่ใช้ในการทำละลายยาน้ำแก้ไอบางประเภท แต่ก็เป็นสารที่ไม่ได้มีความปลอดภัยสักเท่าไหร่และยังส่งผลข้างเคียงต่อเด็กได้ด้วย จึงควรเลือกยาแก้ไอที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์

· เลือกยาที่ปราศจากน้ำตาล ยาแก้ไอบางยี่ห้อจะใช้ส่วนผสมของน้ำตาลเพื่อช่วยเพิ่มความหวาน แต่น้ำตาลนั้นเป็นส่วนผสมที่ทำให้เด็ก ๆ ฟันผุได้ จึงควรหลีกเลี่ยงยาแก้ไอที่มีส่วนผสมของน้ำตาล หรือเลือกใช้ยี่ห้อที่มีส่วนผสมของน้ำตาลน้อยที่สุด

· เลือกยาที่ทานง่าย ขึ้นชื่อว่ายา แน่นอนว่าเด็ก ๆ ก็คงจะไม่ชอบอยู่แล้ว เพราะมีกลิ่นที่ไม่น่ารับประทาน หลายยี่ห้อจึงผลิตออกมาเป็นรสผลไม้เพื่อให้เด็ก ๆ ทานได้ง่ายขึ้น

ข้อควรระวังในการใช้ ยาแก้ไอเด็ก

· ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ ยาน้ำแก้ไอของเด็ก เพื่อหาสาเหตุของการไอก่อนว่าเกิดจากอะไร เพื่อการรักษาที่ตรงจุด นอกจากนี้ยังรวมถึงปริมาณในการใช้ยา เพราะเด็กแต่ละช่วงวัยจะมีน้ำหนักตัวที่ไม่เท่ากัน จึงควรให้แพทย์หรือเภสัชกรแนะนำปริมาณการใช้งานที่ถูกต้องก่อนทานด้วย เพื่อให้เด็กไม่ทานยาเกินขนาด

· ไม่ใช้ยาแก้ไอในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปี 

· หากใช้ยาแล้วมีไข้สูงเกิน 39 องศาเซลเซียสควรไปพบแพทย์

· ไม่ควรใช้ยาติดต่อกันนานเกิน 3 สัปดาห์

· หากใช้แล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์ เช่น มีอาการหายใจผิดปกติ ซึม ไม่ทานอาหาร มีอาการอ่อนเพลีย มีอาการอาเจียน มีไข้ขึ้นสูงเกิน 39 องศาเซลเซียสและไข้ไม่ลง

แม้ว่า ยาน้ำแก้ไอของเด็ก คุณพ่อคุณแม่จะสามารถหาซื้อได้เองตามร้านขายยาทั่วไป แต่การใช้ยาให้ถูกประเภทและใช้ในปริมาณที่เหมาะสมนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรทราบ เพื่อการรักษาให้ถูกอาการและส่งผลดีต่อลูกของคุณ

ยาเขียวตราใบโพธิ์ กินอย่างไรให้ปลอดภัย ช่วยรักษาอาการอะไรได้บ้าง?

ยาเขียวตราใบโพธิ์ เป็นยาแผนโบราณที่มีประวัติยาวนานมากว่า 100 ปี เรียกว่าเป็นยาตั้งแต่รุ่นปู่มาจนถึงรุ่นหลานเลยก็ว่าได้ เป็นยาสามัญประจำบ้านที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ยาตราใบโพธิ์เป็นยาเขียวหอมที่จัดอยู่ในบัญชียาสามัญประจำบ้านแผนโบราณปี พ.ศ. 2556 โดยมีตัวยาทั้งหมด 3 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มยารสเย็น กลุ่มยารสขม และกลุ่มยารสสุขุม กว่า 52 ชนิด และในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด 19 ที่ผ่านมา ทำให้ยาเขียวเป็นที่นิยมมากขึ้นอีกครั้งเพราะหลายคนเชื่อว่าสามารถใช้รักษาอาการของโรคโควิด 19 ได้ วันนั้นจึงจะมาบอกกันว่ายาเขียวนั้นช่วยรักษาโรคโควิด 19 ได้จริงไหม มีสรรพคุณอย่างไร และกินอย่างไรให้ปลอดภัย

สรรพคุณของ ยาตราใบโพธิ์ 

· ช่วยบรรเทาอาการไข้หวัด ยาตราใบโพธิ์ มีตัวยาที่เป็นรสเย็น จึงมีสรรพคุณช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายได้ ช่วยลดไข้และช่วยรักษาสมดุลของอุณหภูมิในร่างกาย เหมาะสำหรับคนที่มีไข้อ่อน ๆ สามารถกินเพื่อลดไข้ได้ 

· ช่วยบรรเทาอาการไข้จากโรคหัดและอีสุกอีใส โรคหัดและอีสุกอีใสเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส เมื่อร่างกายได้รับเชื้อมาแล้วจะเริ่มมีอาการไข้ ตัวร้อน บางคนมีไข้สูง และจะมีผื่นหรือตุ่มใสขึ้นตามตัว หากใครที่เป็นแล้วรู้สึกว่าเริ่มมีไข้สามารถกินยาเพื่อช่วยลดไข้ได้ โดยจะช่วยบรรเทาอาการไข้ลง ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย และช่วยลดการอักเสบของผื่นหรือตุ่มที่ขึ้นบนผิวหนังได้ แต่หากทานแล้วไข้ไม่ลดหรือไข้สูงขึ้นผิดปกติเกิน 38 องศาเซลเซียสขึ้นไปควรไปพบแพทย์

· ช่วยแก้อาการร้อนในและกระหายน้ำ นอกจากยาเขียวตราใบโพธิ์ จะมีสรรพคุณเด่นในการช่วยลดไข้ได้แล้ว ยังช่วยแก้อาการร้อนในและอาการกระหายน้ำได้ด้วย

การกิน ยาเขียวตราใบโพธิ์ อย่างถูกวิธี

· เด็ก การกินยาเขียวตราใบโพธิ์ สามารถกินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยเด็กให้กินครั้งละ 1 – 5 เม็ด วันละ 1 – 3 ครั้ง เวลาไหนก็ได้

· ผู้ใหญ่ ควรกินครั้งละ 7 – 10 เม็ด วันละ 1 – 3 ครั้ง กินหลังอาหาร หรือเวลาไหนก็ได้เช่นกัน 

ข้อควรระวังในการกินยาเขียวตราใบโพธิ์

· ไม่ควรกินติดต่อกันนานเกิน 3 วัน สำหรับผู้ที่มีอาการไข้ ร้อนใน หรือกระหายน้ำ ไม่ควรกิน ยาเขียวตราใบโพธิ์ ติดต่อกันนานเกิน 3 วัน เพราะโดยทั่วไปแล้วอาการเหล่านี้สามารถดีขึ้นได้ในเวลาประมาณ 3 วัน แต่หากไม่ดีขึ้นอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคอื่น ๆ ได้ 

· หากกินแล้วไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์ หากกินครบ 3 วันแล้วอาการไม่ดีขึ้นหรือไข้ไม่ลดลง ควรหยุดกินยาและไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุของอาการต่าง ๆ จะดีกว่า เพราะอาจเป็นอาการของโรคอื่นได้ หากยังฝืนกินต่อไปโดยไม่ดีขึ้นและไม่ไปพบแพทย์จะทำให้เกิดอันตรายได้

· ผู้ที่มีอาการเข้าข่ายของโรคไข้เลือดออกไม่ควรกิน สำหรับผู้ที่มีอาการเข้าข่ายว่าจะเป็นโรคไข้เลือดออกไม่ควรกิน เพราะฤทธิ์ของยาจะไปบังอาการของโรคไข้เลือดไข้ ทำให้แพทย์ตรวจหาสาเหตุได้ยาก โดยอาการของโรคไข้เลือดออกเบื้องต้นคือ จะมีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียสนาน 2 – 7 วัน หากกินยาเข้าไปครบ 3 วันแล้วไข้ไม่ลดลงให้หยุดกินเพราะเป็นอาการที่เสี่ยงต่อโรคไข้เลือดออก

· ไม่ควรกินเกิน 7 วันในกลุ่มผู้ป่วยโรคหัดและอีสุกอีใส เพราะโดยปกติแล้วโรคเหล่านี้จะหายได้ในเวลา 7 – 10 วันหากมีการรักษาอย่างถูกวิธี จึงไม่ควรกินนานเกิน 7 วัน หากอาการดีขึ้นแล้วควรหยุดกิน หรือถ้าไม่ดีขึ้นควรหยุดกินและไปพบแพทย์

· ผู้ที่แพ้เกสรดอกไม้ควรระวังในการใช้งาน สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้เกสรดอกไม้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาตราใบโพธิ์เพราะในตัวยามีส่วนประกอบของละอองเรณูอยู่ อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้

ยาตราใบโพธิ์ มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการไข้ แก้ร้อนใน และช่วยลดอาการกระหายน้ำ ไม่ได้มีผลโดยตรงในการใช้รักษาโรคโควิด 19 จึงควรเลือกใช้อย่างถูกวิธีเพื่อความปลอดภัยในการใช้ยาและการรักษาที่ตรงกับโรคหรืออาการจะดีกว่า เพราะหากใช้ยาผิดประเภทหรือไม่ถูกวิธีอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้

เกร็กคู ยาสมุนไพรจีนแผนโบราณ ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศชายได้จริงไหม?

เกร็กคู (Grakcu) เป็นยาแผนโบราณที่คิดค้นขึ้นโดยแพทย์ทางเลือกชาวจีน ที่ได้นำเอาสมุนไพรจีนมากประโยชน์ทั้ง 5 ฤทธิ์มาผสานไว้รวมกันเป็นยาบำรุงร่างกายที่มีสรรพคุณหลายอย่าง แต่หนึ่งสรรพคุณที่ทำให้หนุ่ม ๆ หลายคนเกิดความสนใจและเกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่า ยาชนิดนี้สามารถช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศชายได้จริงหรือไม่? หากทานเข้าไปแล้วจะอันตรายไหม? วันนี้เรามีมาบอกกัน!

เกร็กคู ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศชายได้จริงไหม มีสรรพคุณอะไรบ้าง?

· ช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศชาย เกร็กคู เป็นยาสมุนไพรที่มีคุณสมบัติเด่นเรื่องการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศชายด้วยตัวยาสมุนไพรจีนที่มีความปลอดภัยและผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อย่างถูกต้อง ไม่มีส่วนผสมของสารกระตุ้นหรือสารสเตียรอยด์ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย มีสรรพคุณของตังถั่งเช่าที่จะช่วยฟื้นฟูภูมิคุ้มกันในร่างกายและช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดทำงานได้ดีขึ้น มีสรรพคุณจากอิมเอี่ยขักที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของเส้นเอ็นและกระดูก ที่เมื่อเลือดไหลเวียนได้ดีขึ้นและระบบต่าง ๆ ทำงานได้ดีขึ้นก็จะช่วยกระตุ้นให้มีอารมณ์ทางเพศมากขึ้น

· ช่วยปรับสมดุลในร่างกายและอวัยวะหลักทั้ง 5 ยาเกร็กคูมีสรรพคุณของโหงวบี่จี้ที่ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย ช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบประสาท ระบบอาหาร หรืออื่น ๆ 

· ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ตังถั่งเช่ามีสรรพคุณช่วยลดระดับน้ำตาลและคอเลสเตอรอลในเลือด เมื่อระดับน้ำตาลและคอเลสเตอรอลเกิดความสมดุลก็จะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น สามารถไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ในร่างกายได้ นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณของเนกกุ่ยที่ช่วยบำรุงระบบการไหลเวียนของเลือดด้วย

· ช่วยให้ระบบย่อยทำงานได้ดีขึ้น ซัวเอียะมีสรรพคุณในการช่วยย่อย ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น มีสรรพคุณของตั่วจ้อที่มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ เพื่อช่วยแก้อาการท้องผูก

· ช่วยฟื้นฟูร่างกายและช่วยลดอาการเมื่อยล้า แป๊ะตุ๊กมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลีย อ่อนล้า แขนขาไม่มีแรง และมีตังถั่งเช่าที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงขึ้น

· ช่วยบำรุงไต อุดมไปด้วย 3 สมุนไพรอย่าง โถ่วชี้จี้ อิมเอี่ยขัก และตังถั่งเช่า ที่มีสรรพคุณช่วยฟื้นฟูและบำรุงไต ช่วยให้ทำงานได้ดี ขับของเสียออกจากร่างกายและช่วยขับปัสสาวะได้

· ช่วยบำรุงสายตา มีสรรพคุณจากเกากี้จี้ที่ช่วยบำรุงสายตาและช่วยป้องกันอาการจอประสาทเสื่อม

· ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น มีสรรพคุณจากตั่วจ้อที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ช่วยคลายเครียด โหงวบี่จี้ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบสมอง และซัวเอียะ ที่ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น

ยาเกร็กคู ผู้หญิงทานได้ไหม? มีวิธีการทานอย่างไร?

ยาเกร็กคู เป็นยาสมุนไพรที่ผู้หญิงก็สามารถทานได้ เพราะมีสรรพคุณที่ดีต่อร่างกายหลายอย่าง ไม่ได้เป็นยาที่ผลิตมาเพื่อผู้ชายเพียงอย่างเดียว เหมาะสำหรับผู้ชายและผู้หญิงที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป การทาน grakcu capsule ทานครั้งละ 1 – 2 แคปซูลด้วยน้ำอุ่น ทานก่อนอาหารเย็นหรือก่อนนอน ไม่ควรทานเกินปริมาณที่กำหนด การทานยาในช่วง 1 – 2 วันแรก บางรายอาจมีผลข้างเคียง เช่น มีไข้ หากพบว่าทานแล้วมีไข้สูงควรหยุดทานและไปปรึกษาแพทย์ สำหรับใครที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนทานเพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา ส่วนเด็ก สตรีมีครรภ์ หรือผู้ที่มีอาการไข้อยู่ไม่ควรทาน

ผลลัพธ์ทางสมรรถภาพทางเพศ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน ส่วนมากแล้วจะใช้เวลาประมาณ 3 วันในการปรับฮอร์โมนในร่างกาย ไม่ได้เห็นผลชัดในทันที แต่ตัวยาจะเข้าไปช่วยกระตุ้นและเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศจากภายในให้ระบบต่าง ๆ ทำงานได้ดีขึ้น และฮอร์โมนเพศชายทำงานได้ดีขึ้นด้วย 

ยาเกร็กคู เป็นยาบำรุงร่างกายที่ผลิตจากสมุนไพรจีน 100% เป็นยาแผนโบราณที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายหากทานอย่างถูกวิธี มีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นช่วยบำรุงหลอดเลือด ช่วยบำรุงตับ บำรุงไต และอีกมากมาย หากใครที่สนใจสามารถหาซื้อมาทานกันได้ ส่วนหนุ่ม ๆ ท่านไหนที่อยากบำรุงร่างกายและเสริมสมรรถภาพทางเพศก็สามารถทานได้ หาซื้อง่ายตามร้านค้าหรือเว็บช็อปปิ้งออนไลน์ทั่วไป ตัวยาผลิตมาเป็นแบบแคปซูล ทานง่าย 

ยาพ่นเจ็บคอ ช่วยบรรเทาอาการแก้เจ็บคอได้จริงไหม ควรเลือกแบบไหนดี?

ยาพ่นเจ็บคอ เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่หลายคนพกติดตัวไว้เพื่อพ่นเวลาที่มีอาการเจ็บคอ เพราะอาการเจ็บคอเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้บ่อย โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง ในช่วงฤดูฝนเข้าฤดูหนาว หรือในช่วงฤดูหนาว ทำให้หลายคนมีอาการเจ็บคอและส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันที่ทำให้ไม่อยากพูด เพราะพูดแล้วจะเจ็บคอ หรือแม้แต่ตอนที่กลืนน้ำลายก็ยังเจ็บ ซึ่งโดยส่วนมากแล้วอาการเจ็บคอสามารถหายได้เองตามธรรมชาติ แต่หากมีการรักษาก็จะช่วยบรรเทาอาการให้เจ็บคอน้อยลงและหายเร็วขึ้นได้

ยาพ่นคอที่ดีควรมีคุณสมบัติอะไรบ้าง?

· มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้ดี ยาพ่นคอที่ดีควรมีสรรพคุณในการบรรเทาอาการเจ็บคอได้โดยตรง เพราะตัวยาหรือคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ใช้นั้นอาจมีคุณสมบัติที่ไม่เหมือนกัน และควรมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการไอและช่วยละลายเสมหะด้วย เพราะอาการเหล่านี้มักจะมาพร้อมกับอาการเจ็บคอ

· ช่วยบรรเทาอาการอักเสบภายในช่องปากและลำคอ อาการอักเสบภายในช่องปากและลำคอ มักเป็นอาการที่ตามมาหลังจากอาการเจ็บคอที่เกิดจากการติดเชื้อจนทำให้เกิดการอักเสบขึ้นในช่องปากและลำคอ ที่จะทำให้อาการเจ็บคอรุนแรงขึ้น จึงควรเลือกยาพ่นคอที่ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อจุลินทรีย์ได้ด้วย เพื่อเชื้อเหล่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการระคายคอหรือการอักเสบ

· มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ควรเลือกชนิดที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติเพราะมีความปลอดภัย เช่น มีสารสกัดจากคาร์โมไมล์ ที่มีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอและช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียในช่องปากและลำคอได้

· ปลอดภัย ปราศจากยาปฏิชีวนะและไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียง ควรเลือกชนิดที่ปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่าง ๆ เช่น ปราศจากยาปฏิชีวนะ สารกันเสีย เมทิลซาลิไซเลต แซคคาริน เพราะหากใช้ ยาพ่นเจ็บคอ ที่มีส่วนผสมของสารเหล่านี้ไปนาน ๆ จะทำให้เกิดการระคายคอได้

· มีมาตรฐานการผลิต ควรเลือกใช้ยี่ห้อที่ผ่านมาตรฐานการผลิต เพราะเป็นยาสำหรับใช้ภายในช่องปากที่หากเลือกยี่ห้อที่ไม่มีคุณภาพหรือไม่ได้มาตรฐานอาจส่งผลต่อสุขภาพได้

ข้อควรระวังในการใช้ยาพ่นคอให้ปลอดภัย

· ซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ควรเลือกซื้อยาพ่นเจ็บคอ หรือ สเปรย์พ่นคอ จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น ร้านขายยา เพราะทำให้มั่นใจได้มากกว่าว่าจะได้ยาที่เป็นของแท้และมีประสิทธิภาพ ใช้แล้วปลอดภัย ไม่เกิดอันตราย

· ตรวจสอบวันหมดอายุก่อนใช้ ไม่ควรนำยาที่หมดอายุแล้วมาใช้ เพราะประสิทธิภาพของตัวยาจะลดลงและอาจทำให้เกิดตกตะกอนได้ หากนำมาใช้อาจส่งผลต่อสุขภาพ 

· อ่านคำแนะนำการใช้ยาก่อนเริ่มใช้ เพื่อการใช้ยาที่ถูกต้อง ว่ายาประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุเท่าไหร่ ปริมาณในการใช้งานแต่ละครั้ง และจำนวนครั้งในการใช้งาน รวมถึงข้อควรระวังต่าง ๆ ด้วย

· หลีกเลี่ยงการใช้ตัวยาที่มีส่วนผสมของสารที่ทำให้เกิดการแพ้ สำหรับใครที่เกสรดอกไม้หรือแพ้สารชนิดใดควรตรวจสอบดูข้างฉลากก่อนว่ามีส่วนผสมนั้น ๆ หรือไม่ เพื่อป้องกันการแพ้ เพราะหากใช้ไปแล้วอาจทำให้มีอาการแพ้ยาได้

· ไม่ใช้ยาเกินขนาด เพราะการใช้ยาฉีดคอมากเกินไปก็ทำให้เกิดการระคายได้เช่นกัน ควรใช้ยาในปริมาณที่พอดีร่วมกับการรักษาอื่น ๆ เช่น การทานยาแก้เจ็บคอ หรือการดูแลสุขภาพคอด้วยการดื่มน้ำอุ่น

· ควรใช้ยาเมื่อเริ่มมีอาการ หากไม่ได้มีอาการอะไรเลย ไม่จำเป็นต้องใช้ยา แต่หากรู้สึกว่าเริ่มมีอาการแล้วสามารถใช้ได้

· เก็บเข้าที่เมื่อเลิกใช้งาน เพราะเด็กอาจนำไปฉีดเล่นจนเข้าตาได้

· ไม่ควรใช้ร่วมกับผู้อื่น เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานในช่องปากจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้งานร่วมกับผู้อื่น เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้

ยาพ่นคอเป็นยาที่มีส่วนผสมของสารสกัดหรือตัวยาต่าง ๆ ที่มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ จึงสามารถใช้แก้อาการเจ็บคอจากสาเหตุต่าง ๆ ได้ แต่หากใครที่มีอาการเจ็บคอมากและมีอาการอักเสบร่วมด้วย ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้อาการรุนแรงยิ่งขึ้น และกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

เอนชัวร์ เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เหมาะกับใคร? มีแบบไหนบ้าง?

เอนชัวร์ เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสูตรครบถ้วนที่คิดค้นและผลิตขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญของบริษัท Abbott Nutrition บริษัทที่เป็นผู้นำระดับโลกด้านโภชนาการ งานวิจัย และการพัฒนา เพราะมีการคิดค้นและพัฒนาอย่างไม่หยุดอยู่กับที่ ทำให้ Ensure เป็นผลิตภัณฑ์เสริมโภชนาการอาหารที่ได้รับความนิยมมายาวนานกว่า 50 ปีหลังจากที่วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1973

เอนชัวร์ มีแบบไหนให้เลือกทานบ้าง แต่ละแบบต่างกันอย่างไร?

· แบบผง เป็นชนิดที่ได้รับความนิยม เพราะมีให้เลือกทั้งแบบกระปุกเล็กและแบบกระปุกใหญ่ โดย Ensure กระปุกใหญ่ ขนาด 850 กรัม สามารถชมดื่มได้ 15 แก้ว เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้ดื่มเป็นประจำ ส่วนกระปุกเล็กขนาด 400 กรัม สามารถชงดื่มได้ 7 แก้ว มีให้เลือก 4 กลิ่นคือ กลิ่นวานิลลา กลิ่นธัญพืช กลิ่นสตรอว์เบอร์รี และกลิ่นช็อกโกแลต นอกจากนี้ยังมีสูตรหวานน้อยสำหรับผู้ที่ไม่ชอบรสหวานหรือผู้ป่วยที่ต้องควบคุมปริมาณน้ำตาลด้วย ส่วนการชงนั้นก็ง่าย ชงดื่มได้ทั้งในน้ำร้อนและน้ำเย็น ละลายง่าย ส่วนการเก็บรักษา หลังจากเปิดใช้งานนมผงแล้วจะมีอายุประมาณ 3 สัปดาห์ ควรดื่มให้หมดในช่วงนี้ และควรปิดฝาให้แน่ทุกครั้งเพื่อป้องกันความชื้น ควรเก็บไว้ในบริเวณที่แห้งและเย็น ส่วนนมที่ชงแล้วหากดื่มไม่หมดควรเก็บแช่ตู้เย็นและควรทานให้หมดภายใน 1 วัน

· แบบน้ำ บรรจุมาในกระป๋องขนาด 250 มิลลิลิตรให้เทดื่มได้ง่าย ไม่ต้องชงละลายน้ำ สามารถเทดื่มได้เลย เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสะดวกสบายหรือเร่งรีบ 

· แบบซอง บรรจุใส่ซองเพื่อให้ฉีกชงง่ายขึ้นโดยไม่ต้องตวง สามารถฉีกเทใส่น้ำแล้วคนดื่มได้เลย เป็นนมเอนชัวร์ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็น แร่ธาตุ และเส้นใยอาหารที่ดีต่อร่างกาย พกพาง่าย สามารถชงดื่มแทนอาหารว่างได้

· แบบกล่องพร้อมดื่ม เอนชัวร์ ดริ้งค์ เป็นนมกล่อง UHT ที่ออกแบบมาให้พกพาสะดวกขึ้นและดื่มง่ายขึ้น ไม่ต้องชง ไม่ต้องตวง สามารถเจาะหลอดดูดได้เลย เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาหรือต้องการพกติดตัวไปดื่มด้วย

นมเอนชัวร์ เหมาะสำหรับใคร คนทั่วไปสามารถทานได้ไหม?

· เหมาะสำหรับคนที่มีอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป นมเอนชัวร์ เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสูตรครบถ้วนที่เหมาะสำหรับทุกคน ดื่มได้ตั้งแต่เด็กที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไป อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย มีวิตามิน แร่ธาตุ และเกลือแร่กว่า 34 ชนิด มีโอเมก้า 3, 6, 9 มีแคลเซียมที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายเพื่อช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ มีวิตามิน C, วิตามิน D, วิตามิน E และซิลีเนียมที่มีส่วนช่วยในการทำหน้าที่ตามปกติของระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยกระตุ้นการขับถ่าย

· ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการขาดสารอาหาร เหมาะสำหรับผู้ที่เรียนหนัก ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย และผู้ที่รับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ หรือเสี่ยงต่อการขาดสารอาหาร สามารถดื่มเพื่อช่วยบำรุงร่างกายและทดแทนสารอาหารที่ขาดไปได้ 

· ผู้ป่วยระยะพักฟื้น เช่น ผู้ป่วยหลังผ่าตัด ที่อยู่ในช่วงพักฟื้น ที่มักมีอาการเบื่ออาหารหรือขาดสารอาหารไปในช่วงที่ป่วย สามารถดื่มเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอได้ เพราะหากร่างกายได้รับอาหารที่เพียงพอและครบทุกด้านก็จะช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้ดีขึ้น

· ผู้ป่วยที่ให้อาหารทางสายยาง ผู้ป่วยประเภทนี้ไม่สามารถทานอาหารเองได้ จึงทำให้เสี่ยงต่อการขาดสารอาหารได้ง่าย จึงควรให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสูตรครบถ้วนที่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอ และไม่เสี่ยงต่อภาวะขาดสารอาหาร เพราะถ้าร่างกายได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอจะทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ไม่ดี

· ผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุมักจะมีอาการเบื่ออาหาร หรือมีปัญหาในการเคี้ยวอาหาร ทำให้ได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ จึงควรเสริมด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อให้ได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อร่างกายเพื่อช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย และอื่น ๆ

Ensure เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสูตรครบถ้วนที่สามารถดื่มได้ทุกคน ไม่เฉพาะผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุเพียงเท่านั้น แต่ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรดื่มแทนอาหารโดยไม่ทานอะไรเลย และสำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อดื่มในปริมาณที่เหมาะสม 

สรรพคุณน่ารู้ของ ยาขับเลือดสตรี ทานอย่างไร ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?

หลายคนเข้าใจผิดคิดว่า ยาขับเลือดสตรี นั้นเป็นยาที่ทำให้แท้งหรือสามารถขับทารกออกมาจากท้องได้ แต่ความจริงแล้วยาสตรีนั้นเป็นยาสมุนไพรเพื่อคุณผู้หญิงที่มีปัญหาเรื่องประจำเดือนมาไม่ปกติและมีสรรพคุณช่วยบำรุงสุขภาพอีกหลายอย่าง การทานยาบำรุงสตรีจึงไม่สามารถทำให้แท้งหรือขับทารกออกมาได้ ไม่ว่าจะทานกี่ขวดก็ตาม เป็นยาที่เหมาะสำหรับสตรีที่ต้องการบำรุงร่างกายและสตรีหลังคลอดบุตรที่มีปัญหาในการอยู่ไฟ

สรรพคุณของ ยาขับเลือดสตรี 

· เป็นยาบำรุงเลือด มีสรรพคุณช่วยบำรุงเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น เพราะเลือดเป็นส่วนสำคัญในร่างกายที่ทำให้หน้าที่ไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้ทำงานได้อย่างเป็นปกติ หากเลือดไหลเวียนได้ดีก็จะช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณช่วยปรับสมดุลในระบบไหลเวียนโลหิต

· ช่วยให้ประจำเดือนมาปกติ ยาสตรีนั้นมีสรรพคุณช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกายให้ทำงานปกติ ช่วยให้ประจำเดือนมาตรงเวลา และช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือนได้ ส่วนอาการประจำเดือนมาไม่ปกติ เกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิ เกิดจากความเครียดสะสม วัยทองหรือวัยหมดประจำเดือน มดลูกอักเสบ และอื่น ๆ ที่ทำให้ระดับฮอร์โมนร่างกายต่ำลงและไม่ตกไข่ตามรอบ ทำให้ประจำเดือนมาช้ากว่าปกติ จากที่จะมาทุก ๆ 28 วัน ก็อาจเลื่อนไปเป็น 30 – 40 วัน หรืออาจมากกว่านั้น หากประจำเดือนไม่มานานเกิน 1 เดือนควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ท้องหรือไม่? เพราะการทานยาบำรุงสตรีในขณะที่ตั้งครรภ์จะเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ 

· ช่วยให้เจริญอาหาร เป็นยาบำรุงร่างกายที่มีสรรพคุณช่วยให้เจริญอาหารขึ้นได้

· ช่วยขับน้ำคาวปลา ช่วยชักมดลูกให้เข้าอู่เร็ว คุณแม่หลังคลอดมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับการขับน้ำคาวปลาและมดลูกเข้าอู่ช้า การทานยาสตรีจะช่วยให้มดลูกเข้าอู่ได้เร็วขึ้น โดยมดลูกนั้นเปรียบเสมือนบ้านของทารกที่มีการขยายตามขนาดตัวของทารก เมื่อคลอดออกมาแล้วมดลูกจะค่อย ๆ ยุบตัวลงเพื่อกลับสู่ที่เดิม หรือที่หลายคนเรียกกันว่า เข้าอู่ เพื่อให้หน้าท้องยุบลง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมดลูกจะใช้เวลาในการกลับเข้าอู่ประมาณ 6 สัปดาห์หลังคลอด นอกจากนี้ยังรวมถึงการขับน้ำคาวปลาที่มีกลิ่นเหม็น เป็นเศษเนื้อเยื่อหรือลิ่มเลือดที่ตกค้างหรือยังออกมาไม่หมด ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 – 2 เดือนในการขับน้ำคาวปลาออกมาให้หมด

· ช่วยแก้อาการตกขาว ตกขาว เป็นสารคัดหลั่งที่ทำหน้าช่วยหล่อลื่นและป้องกันการระคายเคืองของช่องคลอด มีลักษณะเป็นสีขาว ไม่มีกลิ่น ส่วนมากแล้วจะมีช่วงก่อนมีประจำเดือน แต่หากมีออกมามากจนเกินไป มีกลิ่นเหม็น มีสีเหลืองหรือเขียว อาจเกิดจากความผิดปกติอื่น ๆ 

ข้อควรระวังในการทานยาขับเลือดสตรี 

· ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการทานยาบำรุงสตรีเพื่อบำรุงร่างกาย หรือขับน้ำคาวปลาหรืออื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เพราะในตัวยามีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ที่อาจส่งผลต่อสุขภาพได้

· สตรีมีครรภ์ห้ามรับประทาน เพราะเป็นยาที่มีการระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่ามีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ สตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน เพราะจะส่งผลต่อความปกติของทารกในครรภ์ได้ นอกจากนี้บางยี่ห้อยังมีส่วนผสมของเจตมูลเพลิงแดง ที่มีผลทำให้ทารกเจริญเติบโตผิดรูปได้

· ทานยาในปริมาณที่ระบุไว้ข้างฉลาก ไม่ควรทานเกินขนาด เพราะจะเป็นอันตรายต่อร่างกาย

· เลือกทานตำรับยาที่ตรงตามอาการ ยาสตรีในแต่ละตำรับยาจะมีสรรพคุณในการรักษาที่ต่างกัน บางตำรับยาเน้นเรื่องการบำรุงร่างกาย บางตำรับยาเน้นเรื่องการขับน้ำคาวปลา

· ควรเลือกยี่ห้อที่ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัย 

· ไม่ควรทานติดต่อกันนานเกิน 3 เดือน เพราะมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ อาจทำให้มีอาการติดแอลกอฮอล์ได้

· ผู้ป่วยมดลูกอักเสบหรือติดเชื้อในช่องคลอดไม่ควรใช้ยา

ยาขับเลือดสตรีหากทานอย่างถูกวิธีก็จะส่งผลดีต่อร่างกาย แต่หากทานไม่ถูกวิธีก็จะส่งเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน ก่อนทานยาจึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อการใช้ยาอย่างถูกวิธีและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

น้ำมันพืช แต่ละประเภทเหมาะสำหรับการใช้งานแบบไหน ทานอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ?

น้ำมันพืช เป็นส่วนประกอบสำคัญในการประกอบอาหารที่นิยมใช้ในทุกบ้าน เพราะสามารถใช้ทำอาหารได้ทั้งเมนูคาวและเมนูหวาน น้ำมันพืช แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ น้ำมันที่ได้จากไขมันพืช และน้ำมันที่ได้จากไขมันสัตว์ โดยแต่ละประเภทจะมีความแตกต่างกัน หากใครที่ทำอาหารบ่อย ๆ แต่ยังไม่แน่ใจว่าเลือกใช้น้ำมันถูกประเภทหรือไม่ เราก็มีมาบอกกัน

ประเภทของ น้ำมันพืช และการใช้งาน แบบไหนใช้ทอดได้ แบบไหนไม่ควรใช้?

· น้ำมันปาล์ม เป็นน้ำมันพืชที่มีไขมันอิ่มตัวสูงกว่าประเภทอื่น ทนต่อความร้อนได้ดี ไม่ทำให้เกิดควันเมื่อใช้ทอดอาหาร จึงนิยมใช้สำหรับทอดอาหารโดยเฉพาะ ช่วยให้อาหารมีสีสวย ที่สำคัญคือไม่มีกลิ่นหืน แต่ด้วยความที่น้ำมันประเภทนี้มีกรดลิโนเลอิกต่ำกว่าน้ำมันประเภทอื่น จึงไม่ได้ส่งผลดีต่อสุขภาพสักเท่าไหร่หากรับประทานเข้าไปในปริมาณมาก

· น้ำมันมะพร้าว เป็นน้ำมันที่ได้จากการสกัดเย็นโดยไม่ผ่านกระบวนการแปรรูปทางเคมีและความร้อน จึงทำให้เป็นน้ำมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีลักษณะเป็นสีขาวใส ใช้ทำอาหารได้หลายประเภท ทั้งการทอด ผัด หมักอาหาร ใช้ทำน้ำสลัด และใช้ทำเบเกอรี่ได้

· น้ำมันข้าวโพด เป็นน้ำมันที่นิยมใช้ทอดอาหาร เพราะทนต่อความร้อนได้สูงและช่วยให้อาหารมีกลิ่นหอมจากข้าวโพด ไม่เหม็นหืนง่าย เป็นน้ำมันพืชที่มีกรดไขมันดี

· น้ำมันหมู เป็นน้ำมันที่ได้จากสัตว์ เกิดจากการนำมันหมูมาเจียวเพื่อให้ได้น้ำมันออกมา นิยมใช้สำหรับทอดอาหาร เพราะเป็นน้ำมันที่ทนความร้อนได้ดี ช่วยเพิ่มไขมันดีและช่วยลดไขมันไม่ดีลงได้ ที่สำคัญคือ เป็นน้ำมันที่เมื่อโดนความร้อนแล้วจะไม่เปลี่ยนเป็นไขมันทรานส์ที่เป็นสารก่อมะเร็ง

· น้ำมันรำข้าว ใช้สำหรับผัดหรือทอดอาหารได้ ทนความร้อนได้ ไม่ทำให้เหม็นหืนง่าย เป็นน้ำมันเพื่อสุขภาพที่มีสารโอรีซานอล (Oryzanol) ที่มีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระ

· น้ำมันเมล็ดทานตะวัน เป็นน้ำมันเพื่อสุขภาพที่ได้จากเมล็ดดอกทานตะวัน นิยมนำมาใช้ผัด ทำสลัด หรือทำอาหารคลีน ไม่เหมาะสำหรับใช้ทอด

· น้ำมันถั่วเหลือง เป็นน้ำมันที่ใช้สำหรับผัดหรือทำน้ำสลัด ไม่เหมาะสำหรับใช้ทอด เพราะจะทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระที่ไม่ดีต่อร่างกาย

· น้ำมันอะโวคาโด นิยมใช้หมักหรือปรุงอาหาร เป็นน้ำมันเพื่อสุขภาพที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง เหมาะสำหรับคนที่ทานคลีนหรือต้องการลดน้ำหนัก

· น้ำมันคาโนลา นิยมใช้ทำขนมหรือของหวาน เป็นน้ำมันที่นิยมทานเพื่อสุขภาพ

· น้ำมันมะกอก ใช้ทำน้ำสลัด เป็นน้ำมันเพื่อสุขาภาพที่ช่วยลดไขมันไม่ดีในร่างกายได้ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ Extra virgin olive oil ใช้สำหรับทำอาหารที่ไม่ผ่านความร้อน เช่น การทำสลัด แบบ Pure olive oil ใช้ทำสลัดหรือใช้ผัดอาหารที่ใช้เวลาไม่นาน และแบบ Light olive oil เป็นชนิดที่ไม่ควรทานสด ควรนำไปผ่านความร้อนก่อน ใช้สำหรับใช้ทอดอาหาร

· น้ำมันงา เป็นน้ำมันบริสุทธิ์ที่ไม่ผ่านกระบวนทางความร้อนในการผลิต เหมาะสำหรับใช้ทำอาหารที่ไม่ใช้ความร้อน หรืออาหารที่ใช้ความร้อนต่ำ

เรื่องควรรู้เกี่ยวกับการใช้ น้ำมันพืชประกอบอาหาร

· ไม่ควรนำน้ำมันสำหรับผัดมาใช้ทอดอาหาร เพราะน้ำมันพืชสำหรับผัดจะไม่ทนต่อความร้อน มีจุดเกิดควันต่ำ เมื่อเรานำมาทอดโดยใช้ไฟแรง ๆ จะทำให้เกิดสารที่ก่อมะเร็งได้ อีกทั้งน้ำมันชนิดนี้ยังไหม้เร็วและทำให้อาหารทอดสีไม่สวย

· ไม่ควรใช้น้ำมันทอดซ้ำเกิน 2 ครั้ง เพราะการทอดเป็นวิธีการทำอาหารที่ต้องใช้ความร้อนสูง หากนำกลับมาใช้ซ้ำกันหลายกันจะทำให้เกิดสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนและสารโพลาร์ ที่ก่อให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคมะเร็งและโรคหัวใจด้วย

· ไม่ควรเทน้ำมันหลายชนิดผสมกัน เพราะคุณสมบัติของน้ำมันแต่ละชนิดไม่เหมือนกัน แม้ว่าจะนำมาผสมกันแล้วแต่หากโดนความร้อนก็ยังส่งผลต่อสุขภาพได้เช่นกัน

เพราะน้ำมันพืชเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการทำอาหาร จึงควรพิถีพิถันในการเลือกซื้อ เพื่อเลือกใช้น้ำมันได้อย่างถูกประเภท ส่งผลดีต่อสุขภาพของตัวเองและคนในครอบครัวทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว และยังช่วยป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ด้วย

ยาสระผมศิริราช อ่อนโยนต่อหนังศีรษะ เหมาะสำหรับคนผมบอบบางแพ้ง่ายโดยเฉพาะ

ยาสระผมศิริราช เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของศิริราชบำรุงเวชที่ได้รับความนิยม เพราะเป็นผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยนที่ดีต่อหนังศีรษะ เนื่องจากคนที่มีปัญหาเรื่องหนังศีรษะนั้นจะแพ้ง่ายกว่าคนทั่วไป หากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สระผมแบบทั่วไปที่มีส่วนผสมของซิลิโคนหรือสารเคมีจะทำให้หนังศีรษะเกิดการแพ้หรือระคายได้ง่าย มีอาการคันศีรษะ และผมหลุดร่วงง่าย ทำให้เสียบุคลิกและขาดความมั่นใจ จึงควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะ

ยาสระผมศิริราช ดีอย่างไร เหมาะสำหรับสภาพผมแบบไหน?

· อ่อนโยนต่อหนังศีรษะ ยาสระผมศิริราชเป็นยาสระผมสูตรอ่อนโยนต่อหนังศีรษะที่ปราศจากซิลิโคนและพาราเบน เนื่องจากซิลิโคนนั้นเป็นพอลิเมอร์ที่ผสมอยู่ในแชมพูเพื่อช่วยเคลือบเส้นผมให้มีความมันเงา นุ่มลื่น แต่ในทางกลับกัน หากใช้ยาสระผมที่มีส่วนผสมของซิลิโคนไปนาน ๆ จะทำให้ซิลิโคนเกิดการตกค้างอยู่บนเส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้เข้าไปอุดตันรูเส้นผมและส่งผลให้เซลล์ผมทำงานผิดปกติ สามารถดูดซึมอาหารบำรุงผมอื่น ๆ ได้น้อยลง ส่งผลให้ผมแห้ง แข็งกระด้าง ไร้น้ำหนัก หนังศีรษะมัน และทำให้ผมร่วงง่าย นอกจากนี้ยังรวมถึงพาราเบนหรือสารกันบูดที่นิยมนำมาใช้เป็นส่วนผสมของยาสระผมเพื่อช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ เพื่อคงประสิทธิภาพของยาสระผม โดยสารชนิดนี้หากใช้งานไปนาน ๆ จะทำให้หนังศีรษะเกิดการระคายเคืองได้ง่าย มีอาการคัน แดง และอักเสบ

· ช่วยลดความมันส่วนเกินบนหนังศีรษะ เมื่อหนังศีรษะไม่ถูกรบกวนจากสารต่าง ๆ ก็จะช่วยลดการระคายเคืองลงได้ ส่งผลให้หนังศีรษะแข็งแรงและช่วยลดความมันส่วนเกินบนศีรษะได้

· ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะให้ชุ่มชื้น Pentavitin เป็นสารสกัดจากข้าวโพดที่ได้จากธรรมชาติ มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผมและหนังศีรษะ

· ช่วยให้เส้นผมแข็งแรง แชมพูศิริราช มี Vitamin B3 ที่มีคุณสมบัติช่วยให้เส้นผมแข็งแรงไม่ขาดง่าย

· ช่วยลดอาการผมร่วงได้ มีกรดอะมิโน Arginine ที่มีส่วนช่วยในการนำเลือดไปเลี้ยงเซลล์ผม เพื่อให้เซลล์ผมทำงานได้ดีขึ้น และช่วยลดอาการผมร่วงลงได้

เรื่องควรรู้เกี่ยวกับ แชมพูศิริราช การใช้งาน และวิธีการสังเกตสภาพผมของตัวเอง

แชมพูศิริราช จะมีลักษณะเป็นเนื้อเจลใส มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ไม่ได้มีฟองเยอะเหมือนยาสระผมแบบทั่วไป เพราะเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มีความอ่อนโยน ขณะสระผมจึงไม่ทำเกิดฟองสักเท่าไหร่ เพราะการทำให้เกิดฟองนั้นต้องใช้สารบางชนิด แต่ถ้าเรื่องของคุณประโยชน์ถือว่าดีต่อเส้นผม โดยเฉพาะคนที่หนังศีรษะบอบบาง และผมร่วงง่าย ที่จะช่วยฟื้นฟูสภาพเส้นผมและหนังศีรษะให้ดียิ่งขึ้น ส่วนการใช้งานแชมพูศิริราช ให้บีบใส่ฝ่ามือให้พอดีกับเส้นผมแล้วถูจนเกิดฟอง จากนั้นใช้ให้ปลายนิ้วคลึงเบา ๆ ให้ทั่วศีรษะเพื่อให้สิ่งสกปรกต่าง ๆ หลุดออกในรอบแรกและสระอีกครั้งเพื่อความสะอาด จากนั้นแนะนำว่าให้เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมสูตรอ่อนโยนอย่างครีมนวดผมหรือทรีตเมนต์เพื่อช่วยบำรุงเส้นผมอีกขั้นตอน 

สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องหนังศีรษะไหม? แนะนำว่าให้ลองสังเกตอาการใกล้ตัวต่าง ๆ เหล่านี้ดู หากคุณเลือกใช้ยาสระผมแบบทั่วไปแล้วมีอาการคันหนังศีรษะบ่อย แม้ว่าจะเพิ่งสระผมมาได้วันเดียวแต่ก็มีอาการคันหนังศีรษะและหนังศีรษะมันแล้ว และยังมีปัญหาเรื่องผมร่วงด้วย ที่ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปใช้แชมพูยี่ห้อไหนก็ยังเป็นเหมือนเดิมอยู่ นั่นถือเป็นอาการที่บ่งบอกได้ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าหนังศีรษะของคุณกำลังเกิดปัญหาและเกิดการระคายเคือง อาจเกิดจากการแพ้สารเคมี พาราเบน ซิลิโคน หรือสารชนิดอื่น ในเบื้องต้นแนะนำว่าให้หยุดใช้ก่อน และควรหันมาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สระผมสูตรอ่อนโยนเพื่อฟื้นฟูสภาพหนังศีรษะก่อน

แชมพูศิริราช เป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกสำหรับผู้ที่เส้นผมและหนังศีรษะบอบบาง เป็นผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากซิลิโคนและพาราเบน อ่อนโยน ช่วยฟื้นฟูและบำรุงได้อย่างตรงจุด เพราะปัญหาเรื่องเส้นผมและหนังศีรษะใกล้ตัวกว่าที่คิดจึงไม่ควรปล่อยทิ้งเอาไว้